เมนู

หม้อตั้งบนเตาไฟ แต่ว่ายังหาทันสุกไม่ พอแขกมาหาจะได้กินข้าว ต้องช้าอยู่ พอหม้อข้าวสุก
จึงได้เลี้ยงแขก นี่จะว่าบุรุษผู้นั้นใช่คนมั่งมี เป็นคนจนคนอนาถา หรือจะว่ากระไร น่ะบพิตรพระ
ราชสมภาร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ จึงมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า
จะว่าบุรุษผู้นั้นเป็นคนอนาถาหามิได้ แต่ในพระราชนิเวศน์บรมจักรทีเดียว ถ้าผิดเวลาแล้วจะ
ได้มีข้างสุกหามิได้ นับประสาอะไรกับบุรุษคฤหบดีเล่า นี่วิกลแต่เท่านี้จะเป็นไรมี บุรุษผู้นั้นก็เป็น
คฤหบดี มิได้เป็นคนอนาถา
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร สมเด็จพระ
ศาสดาจารย์เจ้าวิกลอยู่แต่ต้องพิจารณาก่อนเท่านี้จะเป็นไรมีเล่า พระองค์เจ้าก็เป็นพระสัพพัญญู
จะไม่เป็นพระสัพพัญญูหามิได้ ขอถวายพระพร
อนึ่งเล่า ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ปานประหนึ่งพระเจ้าบรมจักรพรรดิทรงพระดำริ
ถึงจักรรัตนะ จักรรัตนนั้นก็มาถึงเร็วพลัน ฉันใดก็ดี สมเด็จพระบรมโลกนาถเจ้าก็เหมือนกัน
พิจารณาแล้วก็รู้เร็วพลัน ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากร ก็สโมสรสาธุการว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระ
นาคเสนผู้ปรีชา สมฺปฏิจฺฉามิ โยมจะรับคำพระผู้เป็นเจ้า สมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นองค์พระ
สัพพัญญูจริงในกาลบัดนี้
สัพพัญญูภาวปัญหา คำรบ 2 จบเท่านี้

เทวทัตตปัพพชิตปัญหา ที่ 3


ราชา

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามพระนาคเสนว่า
ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ตุมฺเห ภณถ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโยมว่า พระสัพ
พัญญูเจ้าเป็นองค์พระมหากรุณา แสวงหาสิ่งที่จะให้เป็นประโยชน์แก่มนุษย์นิกรเทวดา
ทรงพระอนุเคราะห์แก่สัตว์นิกรเทวดามนุษย์ชายหญิง จริงหรือพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร เออจริงกระนั้น
แหละ สมเด็จพระสัพพัญญูทรงพระมหากรุณาอนุเคราะห์แก่สัตว์